สุกี้ยากี้ สุกี้ยากี้ หรือเรียกโดยย่อว่า สุกี้ เป็นอาหารญี่ปุ่นชนิดหนึ่งซึ่งเป็นนิยมของคนญี่ปุ่น ไม่แพ้กับอาหารประเภทอื่นๆ สุกี้ยากี้นี้จะมีลักษณะคล้ายซุป โดยมีส่วนประกอบได้แก่ ผัก เห็ด ไข่ เต้าหู้ น้ำซุป และเนื้อสัตว์ซึ่งอาจจะเป็นเนื้อวัว เนื้อหมู หรืออาหารทะเล ใส่วัตถุดิบลงในหม้อเหล็กแบบแบน แล้วนำมาต้มรวมกันจากนั้นก็ปิดฝาแล้วรอให้สุก จิ้มเนื้อกับไข่ดิบ สุกียากี้เป็นอาหารที่รับประทานพร้อมกันได้หลายคน สุกียากี้ต้มกับเหล้าหวานกับซอส ไม่ใช่น้ำ อาหารชนิดนี้ ข้อแนะนำว่าให้กินหน้าหนาว ซึ่งจะทำให้เราได้ รู้สึกถึงไออุ่นจากอาหารชนิดนี้ได้อย่างชัดเจน 5. สึเกโมโนะ สึเกโมโนะก็คือผักดองแบบญี่ปุ่น(tsukemono) อาหารญี่ปุ่นทุกมื้อจะ เสิร์ฟพร้อมสึเกโมโนะ ซึ่งเป็นเครื่องเคียงเสริมหน้าตาและรสชาติให้อาหารน่ารับประทานมากขึ้น นอกจากนี้ผักดองยังช่วยล้างปาก ล้างคาวเพื่อลิ้มลองอาหารชนิดใหม่ เช่น ถ้าทานปลาดิบ แล้วตามด้วยผักดอง จะช่วยล้างความคาวออกจากปาก เพื่อหันไปลองเทมปุระกุ้ง ที่ชิมความหวานของกุ้งได้เต็มปากเต็มคำ ส่วนผสมของผักดองจะต่างไปตามฤดูกาลและมีความหลากหลาย ที่นิยมทานกันทั่วไป คือ ผักกาดขาว ไผ่ หัวผักกาด คิวริ(แตงกวาญี่ปุ่น) แฮกเบอร์รี่ หัวไชเท้า ขิง นะสุ(มะเขือยาวญี่ปุ่น) อูโดะ(หน่อไม้ฝรั่ง) และอื่นๆ 6.
ทงคัตสึ (Tonkatsu) ทงคัตสึ คือ หมูทอด "ทง" หมายถึง เนื้อหมู "คัตสึ" หมายถึง ชิ้นเนื้อเป็นแผ่นโรยด้วยเกล็ดขนมปังทอดในน้ำมัน ในญี่ปุ่นบางทีอาจจะเรียกสั้นๆ ว่า "คัตสึ" ซึ่งก็หมายถึง ทงคัตสึ หรืออาหารที่ชุบเกล็ดขนมปังทอดนั่นเอง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาหารยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมทำกินกันเองที่บ้าน 9. ยากินิคุ (Yakiniku) ยากินิคุ คือ เนื้องย่างบนเตาถ่าน คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักนิยมรับประทานพร้อมกับเบียร์ ร้านยากินิคุจึงมักเป็นสถานที่สังสรรค์หลังเลิกงาน เนื้อที่นำมาย่างต้องนุ่มและมีมันติดนิดๆ เมื่อย่างจนสุกแล้วเนื้อจะได้ไม่กระด้างจนเกินไป สามารถสั่งเป็นเซตหรือสั่งเป็นจานก็ได้ 10. ข้าวหน้าเนื้อ (Gyudon) ข้าวหน้าเนื้อเป็นอาหารอิ่มท้องราคาประหยัดของคนญี่ปุ่น ข้าวในถ้วยจะราดด้วยเนื้อผัดซอสและหัว 11. ทาโกยากิ ทาโกยากิ" หรือที่เรียกว่า "ขนมครกญี่ปุ่น" นั้น แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า ปลาหมึกอบ ปลาหมึกปิ้ง หรือปลาหมึกทอด (ทาโกะคือปลาหมึก ส่วนยากิคือทอด ปิ้ง หรืออบ) ทาโกยากิคือขนมรูปร่างกลมๆมีขนาดประมาณ 3-5 เซนติเมตร ถือเป็นของว่างชนิดหนึ่งของคนญี่ปุ่น ส่วนประกอบหลักๆมี แป้ง ปลาหมึก ขิงแดง พืชชนิดหัวของประเทศญี่ปุ่นที่เรียกว่าคอนยัคคุ และหัวหอม นอกจากนี้ยังต้องมีการราดหน้าทาโกยากิด้วยซอสสีดำๆซึ่งเป็นซอสชนิดเดียวกับอาหารว่างอีกจานหนึ่งคือโอโคโนมิยากิ บางคนขอบีบซอสมายองเนสใส่อีกเล็กน้อย แถมมีปลาฝอย หรือที่เรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า คัทซึโอโบชิ โรยหน้าเข้าให้อีกเพื่อเพิ่มความอร่อย
ทงคัตสึ (Tonkatsu) คือเนื้อหมูสันนอกหั่นชิ้นหนาเล็กน้อย ชุบกับไข่และแป้งปรุงรส คลุกเกล็ดขนมปัง ก่อนจะนำลงไปทอดในน้ำมันร้อนจัดให้กรอบนอกนุ่มใน นี่เป็นอาหารยอดนิยมอย่างนึงที่มักจะทำรับประทานเองกันที่บ้าน เวลาเสิร์ฟก็มักจะมีซอสสูตรพิเศษที่เป็นซอสของทงคัตสึโดยเฉพาะ รสชาติออกหวานอมเปรี้ยว หรือจะรับประทานกับซอสผสมมิโสะก็ได้ แล้วก็มีเครื่องเคียงยอดนิยมเป็นกะหล่ำปลีหั่นเป็นเส้น (อาจจะใส่น้ำสลัดเพิ่มตามชอบ) นอกจากนี้หากนำไปรับประทานโดยโปะบนข้าวสวย พร้อมน้ำซุปดาชิกับไข่ข้นราดบนข้าว ก็จะเรียกว่า คัตสึด้ง ซึ่งเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน 4. นิคุจากะ (Nikujaga) วัตถุดิบหลักสองอย่างคือเนื้อวัวต้มกับมันฝรั่งในน้ำซุปดาชิ เรียกได้ว่าเป็นสตูว์ในสไตล์ญี่ปุ่น และมักจะมาพร้อมกับส่วนประกอบอื่นๆอีกหลายอย่าง แครอท หอมหัวใหญ่ ถั่วลันเตา ปรุงรสด้วยน้ำตาล โชยุ สาเก มิริน เมื่อทำเสร็จแล้วจะมีกลิ่นหอมและมักจะมีสีน้ำตาล หรือบางที่อาจเพิ่มสีสันสดใสด้วยผักหลายชนิด นิยมรับประทานกันในฤดูหนาวเพื่อช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น นอกจากนี้นิคุจากะยังเป็นอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่จัดอยู่ในประเภทอาหารครอบครัว ที่ส่วนใหญ่จะทำรับประทานกันเองในบ้าน และไม่ได้เป็นอาหารชื่อดังที่ชาวต่างชาตินิยมสั่งตามร้านอาหาร แต่เราก็อยากแนะนำให้ทุกท่านลองสั่งดูซักครั้ง 5.
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์ และอาหารญี่ปุ่นก็มีให้เลือกรับประทานหลากหลายเมนู ทำจากวัตถุดิบที่เน้นคุณภาพสูงและความสดใหม่ ทำให้เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมอาหารที่เป็นที่นิยมของคนทั่วโลก ในหัวข้อนี้จะขอแนะนำอาหารญี่ปุ่นน่าลิ้มลอง 10 ประเภท ที่มีลักษณะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวตั้งแต่กรรมวิธีการทำจนถึงวิธีรับประทาน 1. ซูชิ (Sushi) ซูชิ คืออาหารที่ทำขึ้นด้วยการนำชิ้นปลาดิบประเภทต่างๆแล่เป็นชิ้นพอดีคำและวางบนข้าวที่ปั้นเป็นก้อนขนาดใกล้เคียงกันซึ่งข้าวที่นำมาทำซูชินั้นจะมักจะมีส่วนผสมของน้ำส้มสายชูและวาซาบิ สำหรับซูชิที่ไม่ใส่วาซาบิจะมีชื่อเรียกว่า วาซาบินุกิ (Wasabi Nuki) นอกจากปลาดิบที่วางบนข้าวแล้วก็ยังมีหน้าแบบอื่นๆ ด้วย เช่นกุ้ง ปลาหมึก แตงกวา หัวไชเท้าดอง ไข่หวาน เห็ด หรือเนื้อวัวเป็นต้น เวลารับประทานนิยมจิ้มกับโชยุหรือวาซาบิเพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อยยิ่งขึ้น สำหรับครอบครัวญี่ปุ่น ซูชินั้นไม่ใช่อาหารที่ทำกินกันเองตามบ้านเป็นประจำทุกวัน แต่เป็นอาหารที่กินกันในโอกาสพิเศษเป็นหลัก 2. ราเมน (Ramen) ราเมน หนึ่งในเมนูอาหารเส้นยอดนิยมในชีวิตประจำวันของชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นอาหารที่ได้รับการเผยแพร่มาจากจีน จุดเด่นของราเมนอยู่ที่น้ำซุปที่มีหลายรสชาติ เช่น น้ำซุปเกลือ (Shio), น้ำซุปเต้าเจี้ยวญี่ปุ่น (Miso), น้ำซุปจากโชยุ (Shoyu), หรือน้ำซุปจากการเคี่ยวกระดูกหมู (Tonkotsu) โดยนอกจากซุปมาตรฐานสี่อย่างแล้ว ยังมีราเมนสูตรเฉพาะในแต่ละท้องถิ่นทั่วประเทศอีกด้วย ในชามราเมนนอกจากเส้นกับน้ำซุปแล้วก็ยังมีเครื่องเคียงต่างๆ เช่นชาชูหรือหมูสไลด์ เนื้อวัว สาหร่ายทะเล ไข่ต้ม ต้นหอม หน่อไม้ และผักต่างๆ 3.
เว้นแต่โอนเงินมาให้ครับ (หลังไมค์ถามพร้อมเพย์ได้ ถ้าอยากโอน) อ่อ ผมกินทุกต้นเดือนเหมือนกันนะ แต่เดือนที่แล้วไม่ได้กินเพราะไปกินเนื้อย่างมาแล้ว... แล้วก็ไม่ว่างด้วย ปั่นงานรัว ๆ แต่ซูชิในญี่ปุ่นเทียบกับราคาในไทย ปกติเทียบด้วยอัตราแลกเปลี่ยนไม่คำนวน GDP หรือ ค่าแรงขั้นต่ำ อาหารในญี่ปุ่นมักแพงกว่าในไทย แต่สำหรับซูชิในญี่ปุ่นมันถูกใกล้ ๆ ไทยมากและคุณภาพดีกว่ามาก คุณไม่สามารถหาซูชิราคา 30-60 บาทแบบปลาสดคุณภาพดีเยี่ยม ชิ้นใหญ่ ๆ ในไทยได้ หาได้ก็ยาก ปกติไปกินซูชิราคาเท่านี้ไม่ค่อยได้แบบเลิศ ๆ เท่าไหร่ แต่ในญี่ปุ่นคุณหาได้! อร่อยด้วย ลองมาสามร้านแล้ว Wako (ระดับความแมส: Wako) เป็นมื้อแรก ๆ ที่กินเลย แต่ร้านในญี่ปุ่นไม่มีหม้อข้าวให้ตักแบบไทยแหะ... ร้านวาโก้ (ร้านชุดชั้นใน ผมเรียกงั้น มันออกเสียงคล้าย ๆ กัน... ) ขายทงคัตสึ อยู่แถวสยามแต่ที่นี่คืออยู่ Sapporo Station สมัยอยู่ไทยผมชวนเพื่อนไปกินมันไม่มีคนไปกิน สุดท้ายต้องมากินคนเดียวที่ญี่ปุ่น... ความแมสของมันดูเท่ากับไทย คือ ร้านอาหารในห้างทั่วไปที่คนทั่วไปเขากินกัน แต่ในไทยคนมีตังค์เขากินกันเพราะราคามันสูงกว่าอาหารปกติหลายเท่า... อร่อยครับ แต่ไหงกินไปครึ่งทางแล้วเลี่ยนไม่รู้ ข้อดีคือ!
สั่ง กิน ๆ จ่ายเงิน เดินออก แล้วพนง. ก็เดินมาเก็บจาดกับปาด ๆ ผ้าเช็ดโต๊ะ ทุกวันนี้ฉากปาดผ้ายังติดตามผมอยู่เลย ฟีลลิ่งเหมือนป้าร้านตามสั่งเดินมาเคลียร์โต๊ะให้นศ. แถวลาดกระบังมาก คือ ฟีลร้านข้างทางในไทยมาก คนมากินก็คือมารีบ ๆ กินให้อิ่มแล้วเดินออกไป มนุษย์ทำงานเหมือนจะชอบกัน ราคาใกล้ ๆ กับอาหารโรงอาหารเลยครับ ไม่แพง เพราะ แมส Sushi (ระดับความแมส: MK, BBQ Plaza) ทุกครั้งที่พูดถึงอาหารญี่ปุ่น คุณจะนึกถึงซูชิ แต่ คนญี่ปุ่นไม่ได้กินซูชิเป็นอาหารหลัก... ครั้งแรกที่ผมพูดถึงซูชิกับคนญี่ปุ่นไม่ว่าจะที่ไหน มันจะหันมาตอบอย่างแรกเลยว่า "คนญี่ปุ่นไม่ได้กินซูชิทุกวัน" น่าจะฟีลเดียวกับฝรั่งถามว่าทำไมยูไม่กินต้มยำกุ้งมื้อนี้ เอ้า! ก็ไอไม่ได้กินต้มยำกุ้งทุกวัน... มันเป็นมื้อพิเศษ คนญี่ปุ่นบอกให้ฟังว่าส่วนใหญ่เขาก็กินกันในวันพิเศษ โอกาสพิเศษ (น่าจะวันเงินเดือนออกด้วย เขาไม่ได้บอกนะ ผมเดา) เพราะฉะนั้นอาหารที่กินในโอกาสพิเศษในไทยมันมีอยู่ไม่กี่ร้านดัง ๆ ครับ และหนึ่งในนั้นคือ MK (แต่ส่วนตัวผมชอบ BBQ Plaza... ) ราคามันแพง ประเด็นแรก คนเราคงไม่กินอาหารมื้อละ 2000 - 6000 เยนกันว่าเล่นทุกวันถ้าอาหารต่อมื้อเฉลี่ยมันราคาประมาณ 500 เยน เพราะฉะนั้นวันหลังถ้าผมไปถามใครว่าพรุ่งนี้กินอะไรดี ช่วยอย่าตอบว่า "ไปกินซูชิสิ! "
มะเขือเทศราชินี แม้ว่าจะมีขนาดเล็กแต่มะเขือเทศราชินีนั้นมีปริมาณไลโคปีนสูงกว่ามะเขือเทศผลใหญ่ โดยพบว่าไลโคปีนในมะเขือเทศมีประสิทธิภาพในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าบีต้าแคโรทีนถึง 2 เท่าและสูงกว่าวิตามิน E ถึง 100 เท่า การกินมะเขือเทศราชินีวันละ 5 ผลจะช่วยลดและป้องกันการเกิดฝ้าได้ดี วิธีการกินที่ให้ผลดีนั้นควรกินตอนเย็นกับน้ำมันเช่น น้ำมันมะกอกหรือน้ำสลัดที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพื่อช่วยเสริมให้ร่างกายดูดซึมไลโคปีนได้มากขึ้น 5. ตับ ตับหมูหรือไก่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กที่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ธาตุเหล็กเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ทำให้ผิวชุ่มชื้นอ่อนเยาว์ ป้องกันการเกิดฝ้าและรอยเหี่ยวย่น นอกจากนี้ตับยังอุดมไปด้วยวิตามิน B1 และ B2 ซึ่งช่วยเสริมการเผาผลาญน้ำตาลและไขมันในร่างกายทำให้ไม่อ้วนง่าย วิธีการกินตับให้ได้คุณค่าต่อร่างกายมากที่สุดการผัดด้วยน้ำมันมะกอก เพราะน้ำมันมะกอกอุดมไปด้วยวิตามิน E ซึ่งทำให้การไหลเวียนเลือดดี และควรกินอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง อาหารทุกอย่างหากกินในปริมาณที่เหมาะสมก็มีประโยน์ต่อร่างกาย หากอยากให้มีผิวพรรณสวยงามแลดูอ่อนวัยก็ลองหาอาหารดังกล่าวมากินดูนะคะ สรุปเนื้อหาจาก: หนังสือ 食べれば食べるほど若くなる法
เวลาเจอคนสวยมักจะมีคำถามว่ากินข้าวกับอะไรหรือถึงได้สะได้สวย บ้านเราก็มีน้ำพริกปลาทูและผักต่างๆ ที่ทำให้สวยและสุขภาพดีกัน มาดูกันนะคะว่าอาหารอะไรที่คนญี่ปุ่นแนะนำว่าควรกินเป็นประจำเพื่อคงความสวยหล่ออ่อนเยาว์ให้นานที่สุด 1. นัตโตะ นัตโตะเป็นสุดยอดอาหารที่ดีต่อสุขภาพและต่อความงามที่คนญี่ปุ่นให้ความสนใจ มีคำกล่าวว่าหากกินนัตโตะทุกวัน วันละ ½-1 แพ็คจะทำให้ดูอ่อนเยาว์กว่าอายุถึง 10 ปี นัตโตะนอกจากจะมีประโยชน์ในการช่วยลดคอเลสเตอรอลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันโรคหัวใจและป้องกันความเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นเลือดในสมองแตกแล้ว ก็ยังอุดมไปด้วยวิตามิน B2 ซึ่งช่วยส่งเสริมการเผาผลาญไขมันในร่างกายทำให้ไม่อ้วนง่าย โดยเวลาที่เหมาะสำหรับการกินนัตโตะที่ดีที่สุดเพื่อความงามนั้นต้องเป็นมื้อเย็น 2. เนื้อวัว เนื้อวัวอุดมไปด้วยธาตุเหล็กและสังกะสีซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญในการสร้างความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนัง มีกรดอะมิโนและคอเลสเตอรอลที่จำเป็นสำหรับผิวหนังที่อ่อนเยาว์ การกินเนื้อเพื่อให้อ่อนเยาว์นั้นควรกินครั้งละ 150-200 กรัม อาทิตย์ละ 2 ครั้ง หรืออาทิตย์ละไม่เกิน 400 กรัม 3. ไข่ คนเราเมื่ออายุเกิน 30 ปี ขึ้นไปผิวจะเริ่มแห้ง มีรอยเหี่ยวย่นและย้อยลง ไข่เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน ธาตุเหล็ก และสังกะสี ซึ่งเป็นอาหารที่ดีแก่ผิวหนัง แม้ว่าไข่จะมีคอเรสเตอรอลแต่คอเลสเตอรอลในไข่นั้นมีบทบาทสำคัญในการทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น นอกจากนี้ไข่ยังอุดมไปด้วยวิตามิน B ซึ่งช่วยเสริมการเผาผลาญน้ำตาลและไขมันในร่างกาย ทำให้ไม่อ้วนง่าย การกินไข่ให้ได้คุณค่าต่อความงามของร่างกายนั้นควรกินวันละ 1 ฟอง อาทิตย์ละไม่เกิน 6 ฟอง 4.
จากภาพที่เห็นเป็นอาหารมื้อเช้าค่ะ ถ้าเป็นมื้อเย็น ก็จะมีจานเล็กจานน้อยอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อย