หน้าเว็บย่อย (1): ปลาร้าแม่มณี
ใบมะขาม ใบส้มป่อย อบที่อุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส หรือตากแดดจนแห้ง 5. นําสมุนไพรทุกชนิดมาชั่งน้ำหนักตามที่ต้องการ แล้วนํามาผสมกัน เติมการบูร พิมเสนและเกลือ คลุกเคล้าให้เข้ากัน 6. เตรียมผ้าสําหรับห่อลูกประคบ ชั่ง สมุนไพรผสม 150 กรัม วางบนผ้า แล้วจึงห่อลูกประคบ ให้แน่นด้วยเชือก *หมายเหตุ* น้ำหนักรวมประมาณ 1, 280 กรัม ทําลูกประคบขนาด 150 กรัม ได้ประมาณ 8 – 9 ลูก ขั้นตอนวิธีการประคบ ลูกประคบสมุนไพร 1. จัดท่าผู้ป่วยให้เหมาะสม ในท่านั่งหรือนอน 2. นำลูกประคบสมุนไพรที่นึ่งจนร้อนมาทดสอบความร้อน โดยแตะที่ท้องแขน หรือหลังมือก่อนนำไปประคบ 3. ในการประคบสมุนไพรต้องทำด้วยความรวดเร็ว ในขณะที่ลูกประคบสมุนไพรกำลังร้อน เมื่อลูกประคบสมุนไพรเย็นลงจึงวางลูกประคบสมุนไพรไว้ได้นานขึ้น 4.
36, P < 0. 01) และลูกประคบสมุนไพร (ค่าเฉลี่ย VAS ลดลง 1. 03, P < 0. 001) ทั้งสองวิธี มีผลลดปวดไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ นอกจากนี้ อัตราการเต้นหัวใจของอาสาสมัครที่ใช้ลูกประคบสมุนไพรลดลงมากกว่าการรักษาด้วยแผ่นประคบร้อนอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีค่าเฉลี่ย 4 ครั้ง/นาที (95% CI: -1. 13 ถึง -5. 3, P < 0. 01) แต่การใช้แผ่นประคบร้อนทำให้อุณหภูมิผิวกายสูงมากกว่าการใช้ลูกประคบสมุนไพร มีค่าเฉลี่ย 0. 49 องศาเซลเซียส (95% CI: 0. 06 ถึง 0. 91, P < 0. 05) เมื่อเปรียบเทียบภายในกลุ่ม ระดับความรู้สึกกดเจ็บเพิ่มขึ้นในการรักษาด้วยลูกประคบสมุนไพร (ค่าเฉลี่ย 0. 85 กิโลกรัม/ตารางเมตร, P < 0. 01) และมุมการเคลื่อนไหวของหลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในการใช้แผ่นประคบร้อน (ค่าเฉลี่ย 0. 49 เซนติเมตร, P < 0.
ควรระวังเป็นพิเศษในผู้ป่วยเบาหวาน อัมพาต เด็ก และผู้สูงอายุ เนื่องจากกลุ่มบุคคลดังกล่าวความรู้สึกตอบสนองต่อความร้อนช้า อาจจะทำให้ผิวหนังไหม้พองได้ง่าย ถ้าต้องการใช้ควรจะ "ใช้ลูกประคบที่อุ่น ๆ" ๓. ไม่ควรใช้ลูกประคบสมุนไพรในกรณีที่มีแผล การอักเสบ (ปวด บวม แดง ร้อน) ในช่วง ๒๔ ชั่วโมงแรก อาจจะทำให้บวมมากขึ้น ๔.
การประคบด้วยลูกประคบโดยตรงในตอนแรก ต้องทำด้วยความรวดเร็ว ไม่วางลูกประคบไว้บนผิวหนังผู้ป่วยนานๆ เพราะลูกประคบยังร้อน ผู้ป่วยยังทนความร้อนได้ไม่มาก ผู้ประคบจึงเพียงแต่แตะลูกประคบลงบนผิวหนังแล้วยกขึ้น เลื่อนไปประคบตำแหน่งถัดไปตามแนวกล้ามเนื้อที่ทำการนวดไว้ 4. เมื่อลูกประคบคลายความร้อนลงไปอีก ผู้ประคบสามารถวางลูกประคบให้นานขึ้นได้พร้อมกับกดคลึงด้วยลูกประคบ จนลูกประคบคลายความร้อนไปมากแล้ว จึงเปลี่ยนไปใช้ลูกประคบอีกลูกซึ่งวางอังไอน้ำร้อนเตรียมพร้อมไว้แล้ว ทำการประคบซ้ำจากขั้นตอนที่ 2-4 5. ในขณะประคบ ควรทำการนวดสลับกับการประคบ โดยเฉพาะในตำแหน่งที่มีอาการปวดเมื่อยมาก ระยะเวลาที่ใช้ในการประคบ โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีต่อการประคบ 1 ครั้ง ถ้ามีอาการเคล็ดขัดยอก อาจประคบได้วันละ 2 ครั้ง ข้อควรระวังในการประคบ 1. อย่าใช้ลูกประคบที่ร้อนเกินไป โดยเฉพาะกับบริเวณผิวหนังที่อ่อน บริเวณที่มีกระดูกยื่น หรือบริเวณที่เคยเป็นแผลมาก่อน ควรใช้ผ้าขนหนูรองหรือใช้ลูกประคบอุ่นๆ 2. ต้องระมัดระวังในกรณีที่เป็นผู้ป่วยโรคเบาหวาน อัมพาต เด็กและผู้สูงอายุ เพราะมักมีความรู้ตอบสนองช้า อาจทำให้ผิวหนังไหม้พองได้ง่าย ควรใช้ลูกประคบที่ไม่ร้อนจัด 3.
ผ้าดิบสำหรับห่อลูกประคบ ตัดเป็นผืนขนาด กว้าง 35 x ยาว 35 เซนติเมตร 2. เชือก หรือ หนังยาง 3. ตัวยาที่ใช้ทำลูกประคบ นอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์เสริมเวลาใช้งานอีก คือ 4. หม้อสำหรับนึ่งลูกประคบ 5. จานหรือชามอลูมิเนียมเจาะรู (เพื่อให้ไอน้ำผ่านได้) รองลูกประคบ ตัวยา/สมุนไพร 1 หัวไพล 500 กรัม แก้ปวดเมื่อย ลดการอักเสบ 2 ขมิ้นชัน 100 กรัม 3 ตะไคร้ 100 กรัม แต่งกลิ่น 4 ผิวหรือใบใบมะกรูด 100 กรัม มีน้ำมันหอมระเหย แก้ลมวิงเวียน 5 ใบมะขาม 200 กรัม แก้อาการคันตามร่างกาย ช่วยบำรุงผิว 6 เกลือ 20 กรัมช่วยดูดความร้อนและช่วยพาตัวยาซึมผ่าน ผิวหนังได้สะดวกขึ้น 7 การบูร 30 กรัม แต่งกลิ่น บำรุงหัวใจ 8 พิมเสน 30 กรัม 9 แหน่ง 100 กรัม แต่งกลิ่น 10 ใบส้มป่อย 100 กรัม บำรุงผิว แก้โรคผิวหนัง วิธีทำลูกประคบ 1. นําสมุนไพรแต่ละชนิดมาล้างน้ำาหลายๆ ครั้ง ให้สะอาด แล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำ 2. นําไพล ขมิ้นชัน แหน่ง มาหั่นเป็นชิ้นบางๆ แล้วอบที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส หรือตากแดดจนแห้ง จากนั้น นํามาตําหรือบด ให้ได้ขนาดตามต้องการ 3. นําตะไคร้ ผิวมะกรูด มาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วอบที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส หรือตากแดดจนแห้ง จากนั้นนํามาตําหรือบด ให้ได้ขนาดตามต้องการ 4.
จัดท่าคนไข้ให้เหมาะสม เช่น นอนหงาย นั่ง นอนตะแคง ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่จะทำการประคบสมุนไพร ๒. นำลูกประคบที่ได้รับความร้อนได้ที่แล้วมาประคบบริเวณที่ต้องการประคบ (การทดสอบความร้อนของลูกประคบคือแตะที่ท้องแขนหรือหลังมือ) ๓. ในการวางลูกประคบบนผิวหนังคนไข้โดยตรงในช่วงแรก ๆ ต้องทำด้วยความเร็ว ไม่วางแช่นาน ๆ เพราะคนไข้จะทนความร้อนไม่ได้มาก ๔. เมื่อลูกประคบคลายความร้อนลงก็สามารถเปลี่ยนลูกประคบอีกลูกหนึ่งแทน (นำลูกเดิมไปนึ่งต่อ) ทำซ้ำตามข้อ ๒, ๓ วิธีเก็บรักษาลูกประคบ ๑. ลูกประคบสมุนไพรที่ทำในแต่ละครั้ง สามารถเก็บไว้ใช้ซ้ำได้ ๓-๕ วัน ๒. ควรเก็บลูกประคบไว้ในตู้เย็น จะทำให้เก็บได้นานขึ้น (ควรตรวจสอบลูกประคบด้วย ถ้ามีกลิ่นบูดหรือเหม็นเปรี้ยวไม่ควรเก็บไว้) ๓. ถ้าลูกประคบแห้ง ก่อนใช้ควรพรมด้วยน้ำหรือเหล้าขาว ๔. ถ้าลูกประคบที่ใช้ไม่มีสีเหลืองหรือสีเหลืองอ่อนลง แสดงว่ายาที่ใช้จืดแล้ว (คุณภาพน้อยลง) จะใช้ไม่ได้ผลควรเปลี่ยนลูกประคบใหม่ ๕. ลูกประคบ ๑ คู่ สามารถนำมาใช้ในการรักษาได้ ๓ ครั้ง ข้อควรระวัง ๑. ห้ามใช้ลูกประคบที่ร้อนเกินไป โดยเฉพาะกับบริเวณผิวหนังอ่อน ๆ หรือบริเวณที่เคยเป็นแผลมาก่อน ถ้าต้องการใช้ควรมีผ้าขนหนูรองก่อนหรือรอจนกว่าลูกประคบจะคลายความร้อนลงจากเดิม ๒.
#ตำบลบ้านเรือ #สำนักบริการวิชาการ #มหาวิทยาลัยขอนแก่น #บ้านเรือ โดย: สุทธิดา สร้องสิงห์ 8 ก. ค. 2564, 11:09 1 0 กิจกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิต และส่งเสริมอาชีพให้กับประชาชนตำบลบ้านเรือ ร่วมกับผู้ปฎิบัติงานภายใต้โครงการยกระดับเศรษฐกิจ และสังคมในตำบลแบบบรูณาการ และคณะอาจารย์สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยากร อาจารย์สุกัญญา จันทร์สิงห์ ผู้มาให้ความรู้กี่ยวกับการทำสมุนไพรลูกประคบให้แก่ประชาชนในตำบลบ้านเรือ #ณ องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเรือ
บทที่ 3 อุปกรณ์และการดำเนินงาน การจัดทำสมุนไพรลูกประคบ คณะผู้จัดทำโครงงานมีวิธีดำเนินโครงงานตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้ 1. ขั้นตอนการดำเนินการ 1. คิดหัวข้อโครงงานเพื่อนำเสนออาจารย์ที่ปรึกษา 2. ศึกษาค้นคว้ารวบรวมข้อมูล ที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพร 3. ศึกษาสมุนไพรในท้องถิ่น 4. ทำเอกสารสรุปรายงานโครงงาน 2. สมุนไพรที่นำมาทำลูกประคบดังนี้ 1. ไพล 10 กรัม ตะไคร้หอม 3. ขมิ้นชัน 10 กรัม 4. ขมิ้นอ้อย 10 กรัม 5. ใบมะกรูด 10 กรัม 6. ใบมะขาม 10 กรัม 7. ใบส้มป่อย 10 กรัม 8. ใบขี้เหล็ก 9. เกลือแกง 10 กรัม 10. พิมเสน 10 กรัม 11. การบูร 10 กรัม 3. วัสดุอื่นๆ 1. ผ้าขามบางขนาดกว้าง x ยาว 13 นิ้ว x 13 นิ้ว / ผืน 2. กรรไกร/เครื่องชั่ง 3. มีด กระด้ง ถาด 4. เชือกขาว 5. กะละมังเล็ก ทัพพีสำหรับสมุนไพร ช้อนสำกรับตักสมุนไพร ขั้นตอนการผลิต ล้างสมุนไพรให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆโขลกพอเเหลกใส่เกลือ พิมเสน การบูร คลุกให้เข้ากัน เเบ่งเป็น 2-3 ส่วน 2. นำส่วนทั้งหมดมาวางตรงกลางของผ้า เริ่มต้นจับมุมผ้าทีละ 2 มุม ขึ้นมาทบกัน จับจนครบทั้ง 4 มุม ให้รวบมุมผ้าที่ละมุม อีกครั้งหนึ่งจนครบอีกทั้ง 4 มุม 3. แต่ง ชายผ้าให้เรียบร้อย ซ้อนกันเป็นชายเดียวจากนั้นค่อย ๆจัดแต่งลูกประคบให้เป็นรูปทรงกลมที่สวยงาม มัดด้วยเชือกที่ทำเป็นห่วงคล้อง แล้วมัดปมให้แน่น การทำด้ามจับ โดยการจับชายผ้าที่เหลือมาซ้อนกันให้เรียบร้อย เสร็จแล้วพับเข้าหากันเพื่อเก็บซ่อนชายผ้าทั้งสองด้าน 5.
วิชิต นางแล สำนักวิชาคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย โทร 053-776395, 096-7731885, 091-8587973 อีเมล Facebook twitter line instagram