1 กรัม 0% ไขมันอิ่มตัว 0 กรัม 0% ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 0. 1 กรัม ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 0 กรัม โคเลสเตอรอล 0 มิลลิกรัม 0% โซเดียม 2 มิลลิกรัม 0% โพแทสเซียม 85 มิลลิกรัม 2% คาร์โบไฮเดรตทั้งหมด 12 กรัม 4% ใยอาหาร 5 กรัม 18% น้ำตาล 4 กรัม โปรตีน 0. 4 กรัม 0% วิตามินเอ 1% วิตามินซี 22% แคลเซียม 0% เหล็ก 1% วิตามินดี 0% วิตามินบี 6 6% วิตามินบี 12 12% แมกนีเซียม 1% 9 สุดยอดประโยชน์ทางด้านสุขภาพจากแครนเบอร์รี่ 1. แครนเบอร์รี่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระและสารพฤษเคมี จำพวก oligomeric proanthocyanidins, anthocyanidin flavonoids (ซึ่งให้สีแดงสดใส), cyanidin, peonidin และ quercetin ที่มีคุณสมบัติเฉพาะที่ส่งผลที่ดีต่อสุขภาพ โดยความเข้มของ anthocyanidin ในแครนเบอร์รี่จะไปช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมองและโรคหัวใจ 2. น้ำแครนเบอร์รี่ขึ้นชื่อในด้านประสิทธิภาพของการรักษาโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะหรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTIs) แครนเบอร์รี่ได้ถูกนำมาใช้เป็นเวลาหลายปีในการรักษาป้องกันไม่ให้เกิดโรค UTIs พบว่าระดับสารต้านอนุมูลอิสระในระดับสูงที่เรียกว่า proanthocyanidins จะไปช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เกิดจากการติดเชื้อจากกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะค่ะ 3.
ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก
(2557). การบริหารสมองสนองศักยภาพการเรียนรู้ (Brain Gym) เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัย. สืบค้น 23 มกราคม 2562, จาก สุพัชรา ซิ้มเจริญ. (2559). 10 ท่าบริหารสมองให้มีประสิทธิภาพเป็น 2 เท่า. สืบค้น 23 มกราคม 2562, จาก EdTech Creation. (2552). เทคนิคชวนเด็กๆ บริหารสมอง (brain gym) ชุดที่ 2: ท่าบริหารการเคลื่อนไหวสลับข้าง (Cross Crawl). สืบค้น 23 มกราคม 2562, จาก ทคนิคชวนเด็กๆ-บริหารสมอง-%28brain-gym%29-ชุดที่-2-:-ท่าบริหารการเคลื่อนไหวสลับข้าง-%28cross-crawl%29 สนใจเรียนเต้นกับ The Wonder Studio ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ทาง • Tel. 085-1232348 • Line @ Click • Facebook Click ♥ รายละเอียดคลาสเต้น by The Wonder Studio Click
ท่าโป้ง-ก้อย วิธีปฏิบัติ ยกมือทั้ง 2 ข้าง ให้มือขวาทำท่าโป้งโดยกำมือและยกหัวแม่มือขึ้นมา ส่วนมือซ้ายให้ทำท่าก้อย โดยกำมือและเหยียดนิ้วก้อยชี้ออกมา เปลี่ยนมือซ้ายเป็นท่าโป้งและมือขวาเป็นท่าก้อย ทำสลับกันไปมา 10 ครั้ง ประโยชน์ของท่าโป้ง-ก้อย ช่วยกระตุ้นการสั่งการของสมองให้สมดุล ทั้งสมองซีกซ้ายและซีกขวา ช่วยกระตุ้นสมองส่วนการคิดคำนวณกะระยะ ป้องกันกล้ามเนื้อหัวไหล่เกิดการติดยึด 3. ท่าแตะจมูก-แตะหู วิธีปฏิบัติ นำมือขวาไปแตะที่หูซ้าย ส่วนมือซ้ายให้ไปแตะที่จมูก (ลักษณะมือไขวักัน) จากนั้นเปลี่ยนมาเป็นมือซ้ายแตะที่หูขวา ส่วนมือขวาไปแตะที่จมูก (ลักษณะมือไขวักัน) ทำสลับกันไปมา 10 ครั้ง ประโยชน์ของท่าแตะจมูก-แตะหู ช่วยให้การมองเห็นภาพด้านซ้ายและขวาดีขึ้น 4. ท่านับ 1-10 วิธีปฏิบัติ 1. เริ่มท่าเตรียม กำมือทั้ง 2 ข้าง 2. ยกมือขวาให้อยู่ในระดับสายตาแล้วทำท่าชี้นิ้วไปทางซ้าย และมือซ้ายทำท่าชู 1 นิ้ว (นิ้วชี้) นับ 1 3. สลับให้มือซ้ายอยู่ในระดับสายตาแล้วทำท่าชี้นิ้วไปทางขวา และ ให้มือขวาทำท่าชู 2 นิ้ว (นิ้วชี้และนิ้วกลาง) นับ 2 4. สลับให้มือขวาอยู่ในระดับสายตาแล้วทำท่าชี้นิ้วไปทางซ้าย และ ให้มือซ้ายทำท่าชู 3 นิ้ว (นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนาง) นับ 3 5.
ที่อยากให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี และส่งเสริมให้มีกิจกรรมทางกายมากขึ้น โดยได้แนะนำว่า แกว่งแขนวันละประมาณ 30 นาที ต่อวัน หรือเดินเร็วอย่างน้อย 10 นาที ต่อวัน เพื่อเลี่ยงการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) และอ้วนลงพุงได้ จะเห็นว่าสมองมีความสำคัญกับร่างกายเราจริงๆ ถ้าเราบริหารสมองควบคู่กับการออกกำลังกายเป็นประจำ เราก็จะช่วยให้สามารถทำทุกอย่างในแต่ละวันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น