5 ออกแบบอุปกรณ์จับยึด อุปกรณ์จับยึด (Jig and Fixture) เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น, เร็วขึ้น และมีคุณภาพที่ดีขึ้น เช่น อุปกรณ์ช่วยในการปรับตั้งชิ้นงานบนเครื่องจักร, อุปกรณ์จับยึดชิ้นงานบนเครื่องจักร 3. 6 การกำหนดเวลามาตรฐานในการผลิต ในการวางแผนการผลิตจำเป็นต้องรู้เวลามาตรฐานของกระบวนการต่างๆ ยิ่งเวลามาตรฐานแม่นยำเท่าไหร่จะทำให้สามารถวางแผนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น. ในการกำหนดเวลามาตรฐานมีวิธีการมากมาย ตั้งแต่การจับเวลา, การประมาณเวลา, การนำข้อมูลการผลิตที่ผ่านมามาประเมินหาเวลามาตรฐาน 3. 7 การกำหนดตารางการผลิต ตารางการผลิตเป็นการกำหนดระยะเวลาในการการผลิต/ประกอบในหน่วยการผลิตต่างๆ โดยมีเวลามาตรฐานในการวางแผนควบคุม
8kb dist/ 7. 3kb dist/ 138. 8kb 100. 0% ├ node_modules/react-dom/cjs/ 126. 5kb 91. 1% ├ node_modules/react/cjs/ 6. 4kb 4. 6% ├ node_modules/scheduler/cjs/ 3. 9kb 2. 8% ├ node_modules/react-dom/ 253b 0. 2% ├ src/ 220b 0. 2% ├ src/ 188b 0. 1% ├ node_modules/react-dom/ 107b 0. 1% ├ node_modules/react/ 51b 0. 0% └ node_modules/scheduler/ 51b 0. 0% dist/ 7. 3kb 100. 0% ├ node_modules/react/cjs/ 6. 3kb 86. 2% ├ src/ 214b 2. 9% └ node_modules/react/ 46b 0. 6% ✨ Done in 0. 26s. สรุป วันนี้ก็ลองเล่น esbuild ไปแบบเบื้องต้น ก็ทำให้มองเห็นภาพการทำงานมากขึ้น สิ่งที่น่าสนใจและน่าลองศึกษาต่อคือการ bundle รวมไฟล์ แยกไฟล์ แยกโฟลเดอร์ อะไรพวกนั้น แล้วก็การ generate hash ให้ไฟล์ การทำหรือใช้ plugin ต่างๆ รวมถึงพวก watch / hot reload และ WASM Happy Coding ❤️ Reference esbuild
1 การลำดับภาพ หรือการตัดต่อ (Editing) เป็นการนำภาพมาตัดต่อให้เป็นเรื่องราวตามบทวีดิทัศน์ โดยใช้เครื่องตัดต่อ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยการตัดต่อนี้มี 2 ลักษณะ คือ 1) Linear Editing เป็นการตัดต่อระหว่างเครื่องเล่น/บันทึกวีดิทัศน์ 2 เครื่อง โดยให้เครื่องหนึ่งเป็นเครื่องต้นฉบับ (Master) และอีกเครื่องหนึ่งเป็นเครื่องบันทึก (Record) ในปัจจุบันไมนิยมใช้แล้ว เนื่องจากการตัดต่อลักษณะนี้ต้องใช้ผู้ที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน และใช้เวลานานมาก 2) Non-Linear Editing เป็นการติดต่อโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เฉพาะ ซึ่งเป็นการตัดต่อที่รวดเร็วและมีข้อผิดพลาดน้อยที่สุด 3. 2 การบันทึกเสียง (Sound Recording) จะกระทำหลังจากได้ดำเนินการตัดต่อภาพตามบทวีดิทัศน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงทำการบันทึกเสียงดนตรี เสียงบรรยาย และเสียงประกอบลงไป 3. 3 การฉายเพื่อตรวจสอบ (Preview) หลังจากตัดต่อภาพ และบันทึกเสียงเรียบร้อยแล้วจะต้องนำมาฉายเพื่อตรวจสอบก่อนว่ามีอะไรที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขหรือไม่ 3.
5 การเขียนบทวีดิทัศน์ (Script Writing) เป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องจากการกำหนดแนวคิดจนถึงการวิเคราะห์เนื้อหา จนได้ประเด็นหลักและประเด็นย่อยของรายการ แล้วนำมาเขียนเป็นบท ซึ่งเป็นการกำหนดลำดับก่อนหลังของการนำเสนอภาพและเสียง เพื่อให้ผู้ชมได้รับเนื้อหาสาระตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ โดยระบุลักษณะภาพ และเสียงไว้ชัดเจน นอกจากนั้นบทรายการวีดิทัศน์ยังถ่ายทอดกระบวนการในการจัดรายการออกมาเป็นตัวอักษรและเครื่องหมายต่าง ๆ เพื่อสื่อความหมายให้ผู้ร่วมการผลิตรายการได้ทราบ และดำเนินการผลิตตามหน้าที่ของแต่ละคน 1. 6 การกำหนดวัสดุ และอุปกรณ์ในการผลิตรายการ โดยที่ผู้ผลิตรายการจะต้องทราบว่าต้องใช้วัสดุอุปกรณ์ใดบ้าง ซึ่งต้องกำหนดรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ดังกล่าว เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานในการจัดหา และเตรียมการต่อไป 1. 7 การกำหนดผู้แสดง หรือผู้ดำเนินรายการ ต้องเป็นไปตามความเหมาะสมของเนื้อหาและรูปแบบของรายการที่จะนำเสนอ 1.
วิธีเขียนบทหนัง [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก:,
ด้วยเช่นกัน "วิศวกรฝ่ายผลิต (Production Engineer)" ต้องทำการวิเคราะห์ แก้ไขปัญหา ปรับปรุงพัฒนาด้านคุณภาพ ด้านลดต้นทุน และด้านจัดส่ง ในสายการผลิตให้เพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง และต้องทำการดำเนินการตามมาตรฐานต่างๆ ให้ความรู้ อบรม พัฒนา แก่พนักงานในสายการผลิต และติดตามผลอย่างต่อเนื่อง สิ่งสำคัญมากๆ เลยสำหรับ "วิศวกรฝ่ายผลิต (Production Engineer)" นั้นก็คือ ในทุกๆ กิจกรรม ที่ลงมือปฏิบัติ ออกแบบ และวางแผน นั้น ต้องคำนึงถึง "ความปลอดภัย" ในการทำงานเป็นสิ่งแรกเสมอ เพราะความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ในการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม สำหรับความต้องการพื้นฐานของ "วิศวกรฝ่ายผลิต (Production Engineer)" 1. ต้องเรียนจบปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมศาสตร์ หรือเกี่ยวข้อง 2. ต้องมีทักษะในการวิเคราะห์ แก้ไขปัญหาเป็นอย่างดี มีกระบวนการคิดที่เป็นหลักการ 3. ต้องมีทักษะการพูด การนำเสนองาน ที่ยอดเยี่ยม 4. มีความสามารถในการจัดการ วางแผน ปรับปรุงพัฒนาที่ดี 4. มีความเป็นผู้นำสูง (Leadership) 5. สามารถทำงานในสภาวะใต้แรงกดดันได้ดี 6.
ตรี มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์การทำงาน มีความสนใจด้านสื่อออนไลน์ ความคิดสร้างสรรค์ ขยันอดทน ตรงต่อเวลา มีความรับผิดชอบต่องาน" เรื่องที่คุณอาจสนใจ
1 การแสวงหาแนวคิด เป็นการหาแนวทาง เรื่องราวที่จะนำมาผลิตเป็นรายการวีดิทัศน์ ซึ่งถือว่าเป็นภารกิจแรกของผู้ผลิตรายการที่จะต้องตั้งคำถามให้กับตัวเองว่า แนวคิดคิดที่ได้นั้นดีอย่างไร และจะให้ประโยชน์อะไรต่อผู้ชม การหาแนวคิดหรือเรื่องราว จึงเป็นงานที่จะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการคอนข้างสูง 1. 2 การกำหนดวัตถุประสงค์ (Objective) เมื่อได้เรื่องที่จะทำการผลิตารายการแล้ว เป็นการคาดหวังถึงผลที่จะเกิดกับผู้ชมเมื่อได้รับชมรายการไปแล้ว ทุกเรื่องที่นำมาจัดและผลิตรายการโทรทัศน์ ผู้ผลิตจะต้องกำหนดวัตถุประสงค์วามุ่งจะให้ผู้รับได้รับหรือเกิดการเปลี่ยนแปลงทัศนคติ หรือพฤติกรรมในด้านใดบ้าง การกำหนดวัตถุประสงค์อาจตั้งหลายวัตถุประสงค์ก็ได้ 1. 3 การวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย (Target audience) เมื่อได้กำหนดวัตถุประสงค์แล้ว ขั้นต่อไปวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายหรือผู้ชมว่ามีลักษณะอย่างไร เป็นการทำความรู้ผู้ชมในแง่มุมต่าง เกี่ยวกับเพศ อายุ การศึกษา อาชีพ ความสนใจ ความต้องการ และจำนวนผู้ชม เพื่อให้สามารถผลิตรายการได้ตรงความต้องการมากที่สุด 1. 4 การวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis) เป็นกระบวนการศึกษาเนื้อหา และข้อมูลที่เกี่ยวกับเรื่องที่จะทำการผลิตแล้วนำมาวิเคราะห์ เพื่อให้ได้เนื้อหาสาระ และข้อมูลที่ถูกต้องทันสมัย น่าสนใจ และเพิ่มความน่าเชื่อถือ การวิเคราะห์เนื้อหาเป็นหน้าที่ของผู้ผลิตที่จะต้องทำการศึกษาจาก ตำรา เอกสาร ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหา และข้อมูล และข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ อย่างครบถ้วน ทำการลำดับเนื้อหาจากง่ายไปยาก เพื่อการนำเสนอที่เหมาะสม และสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี 1.
เป็นผี!!!
1 จัดทำงบประมาณในการผลิต ก่อนทำการผลิตต้องมีการประมาณงบประมาณ, ต้นทุนในการผลิต เพื่อให้มั่นใจว่าต้นทุนต่างๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เตรียมการผลิตจนถึงส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า อยู่ภายใต้งบประมาณที่กำหนดไว้ตามสัดส่วนต่างๆ 3. 2 กำหนดรายการวัสดุ การกำหนดรายการวัสดุ หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า BOM (Bill Of Material) เป็นการจัดทำรายการวัสดุที่ต้องใช้ในกระบวนการผลิต 3. 3 วางแผนกระบวนการ การวางแผนกระบวนการ เป็นการกำหนดกระบวนการผลิต, ลำดับของกระบวนการต่างๆ ในการผลิต โดยวิศวกรกระบวนการจะทำหน้าที่ในการวิเคราะห์กระบวนการต่างๆ ให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์และการทำงาน เพื่อให้ประบวนการมีประสิทธิภาพสูงสุด 3. 4 หารายละเอียดของเครื่องจักร รายละเอียดของเครื่องจักรมีความจำเป็นต่อหน่วยงานวางแผนการผลิตมาก เจ้าหน้าที่วางแผนการผลิตต้องรู้รายละเอียดของเครื่องจักรแต่ละเครื่องเป็นอย่างดี เช่น มีเครื่องจักรอะไรบ้างอยู่ใน โรงงาน, มีจำนวนกี่เครื่อง, กำลังการผลิตแต่ละเครื่องเท่าไหร่, ประสิทธิภาพของเครื่องจักรแต่ละเครื่องเป็นอย่างไร รวมไปถึงแผนการซ่อมบำรุงรักษาเครื่อง (Maintenance Plan), ประวัติการเสียของเครื่องจักร เป็นต้น 3.