ลองดูตัวอย่างวลีคำกริยาตอนนี้: เขา ร้องเพลงได้ ดีจริงๆ. พวกเขา จะไป ไปปารีสพรุ่งนี้ เธอ ไม่เข้าใจ บทเรียน. คุณ ควรจะเป็น กับพวกเขา. ผม จะ ไม่เคย โกหก อีกครั้ง. วลีกริยาสามารถมีได้ถึงสี่คำ อย่างไรก็ตามกริยาวิเศษณ์ที่เกิดขึ้นกลางวลีคำกริยาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของวลีคำกริยา เช่นดูตัวอย่างประโยคสุดท้าย ที่นั่น ไม่เคย เป็นคำวิเศษณ์ แต่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของวลีคำกริยา ยิ่งไปกว่านั้นคำกริยาหลักมักเกิดขึ้นในตอนท้ายของวลี เมื่อวลีกริยามีทั้งกริยาช่วยและกริยาช่วยกริยาช่วยจะมาก่อนกริยาช่วยเสมอ กริยาวลีคืออะไร? กริยาวลีคือกริยาที่ประกอบด้วยคำกริยาและองค์ประกอบอื่น องค์ประกอบอื่นที่ตามหลังคำกริยาหลักมักเป็นคำบุพบทหรือคำวิเศษณ์ การเพิ่มองค์ประกอบอื่น ๆ นี้สามารถเปลี่ยนความหมายของคำกริยาได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่นคำว่า นับ หมายถึงการกำหนดผลรวมทั้งหมด แต่เป็นการเพิ่มคำบุพบท บน ทำให้กริยาวลี เชื่อถือ, ซึ่งหมายถึงการพึ่งพาบางสิ่งหรือบางคน กริยาวลีสามารถเป็นได้ทั้งสกรรมกริยาหรืออกรรมกริยา คำกริยาสกรรมกริยามีสองประเภทคือคำกริยาวลีที่แยกออกจากกันและคำกริยาวลีที่แยกกันไม่ออกตามตำแหน่งของวัตถุ ในกริยาวลีที่แยกจากกันได้วัตถุสามารถเกิดขึ้นระหว่างคำกริยาและคำบุพบท / คำวิเศษณ์ ตัวอย่างเช่น, กรุณา กลับ ระดับเสียง ลง.
(ดูเรื่อง Transitive/Intransitive Phrasal Verbs and Objects กริยาวลีและกรรม) Inseparable Phrasal Verbs Inseparable phrasal verbs ไม่สามารถแยก verb กับ preposition ออกจากกันได้ ดังนั้นถ้าต้องมี object มารองรับจะต้องวางไว้หลัง phrasal verb เสมอ ไม่สามารถแทรกอยู่ในระหว่าง verb กับ preposition ที่ประกอบกันเป็น phrasal verbได้ อย่างเช่น You must look after the child. คุณต้องดูแลเด็ก The doctor knew how to cope with an emergency like this. แพทย์รู้วิธีรับมือกับเหตุฉุกเฉินเช่นนี้ I come across this book in a secondhand bookstore. ฉันบังเอิญพบหนังสือเล่มนี้ในร้านหนังสือมือสอง Do you get along with Pranee? เธอเข้ากันได้ดีกับปราณีหรือเปล่า Inseparable Verbs บางคำก็ไม่จำเป็นต้องมี object มารองรับก็ยังสื่อความหมายได้ครบถ้วน เช่น come in, grow up, stand up, find out, etc. What's all that noise? What's going on? เสียงทั้งหมดนั้นคืออะไร? เกิดอะไรขึ้น? Pranee is easy for me to get along with.