เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 จ. สมุทรสงคราม นัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อท 17/2563 ระหว่างพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 7 โจทก์ และนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ นายสาธร พุทธชัยยงค์ บิดาของนักเรียนนายร้อยตำรวจชยากร พุทธชัยยงค์ หรือ โยโย่ เป็นโจทก์ร่วม กับ ร้อยเอกกณพ อยู่สุข จำเลยที่ 1 กับพวก รวม 9 ราย ประกอบด้วย นายสมชาย อำภา จำเลยที่ 2 จ่าเอก กีรดิต สุริโย จำเลยที่ 3 นายรัชเดช เถาว์เพ็ง จำเลยที่ 4 นายวัชรพงษ์ วงษ์สุวรรณ จำเลยที่ 5 พ. ต. อ. อโนทัย ศาสตร์สง่า จำเลยที่ 6 พ. ประพงษ์ ภูฮง จำเลยที่ 7 ร. พิพัฒน์ เยาวเรศ จำเลยที่ 8 และนายสุพร ธนบดี จำเลยที่ 9 ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย รับอันตรายสาหัส ป. อาญา มาตรา 83, 86, 157, 291, 300 พ. ร. บ. ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ. ศ. 2502 มาตรา 3, 11 จากเหตุการณ์การฝึกหลักสูตรพลร่มนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน รุ่นที่ 69 ที่ค่ายนเรศวร จ.
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 52 ในการลดโทษประหารชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการลดมาตราส่วนโทษหรือลดโทษที่จะลง ให้ลดดังต่อไปนี้ ( 1) ถ้าจะลดหนึ่งในสามให้ลดเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิต ( 2) ถ้าจะลดกึ่งหนึ่ง ให้ลดเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือโทษจำคุกตั้งแต่ยี่สิบห้าปีถึงห้าสิบปี หมายเหตุ ฎีกาที่ 7253/2555 ส่วนที่จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษสถานเบานั้น เนื่องจากความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตาม ป. อ. มาตรา 289 (4) มีโทษประหารชีวิตสถานเดียว การพยายามกระทำความผิดต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษประหารชีวิต ดังนั้นเมื่อลดโทษประหารชีวิตลงหนึ่งในสามจึงเหลือโทษจำคุกตลอดชีวิตตาม ป. มาตรา 52 (1) ศาลฎีกาไม่อาจลงโทษจำเลยให้ต่ำกว่านี้ได้ ฎีกาที่ 9121/2555 ตาม ป. มาตรา 289 (4) ต้องระวางโทษประหารชีวิต การคำนวณโทษกึ่งหนึ่งของโทษประหารชีวิตอย่างใดกฎหมายไม่ได้บัญญัติไว้ จึงต้องนำ ป. มาตรา 52 (2) มาใช้ในการกำหนดโทษ โทษกึ่งหนึ่งที่จะลงแก่จำเลยที่ 1 และที่ 2 คือ โทษจำคุกตลอดชีวิต หรือโทษจำคุกตั้งแต่ยี่สิบปีถึงห้าสิบปี ดังนั้น การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2 ตลอดชีวิตตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นก่อนลดมาตราส่วนโทษหนึ่งในสามเป็นจำคุกคนละ 33 ปี 4 เดือน นั้น เป็นการลงโทษไม่เกินกึ่งหนึ่งของโทษที่กฎหมายกำหนดสำหรับความผิดนั้นแล้ว
ป. ช.
ส. ว. และ รมต. นั้น รัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๑๙ กลับกำหนดให้นำมาตรฐานทางจริยธรรมที่ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระร่วมกันกำหนดขึ้นใช้กันในองค์กร มาใช้กับ ส. ด้วย โดย ส. ทำได้แต่เพียงกำหนดจริยธรรมเพิ่มขึ้นให้เหมาะสมกับการปฏิบัติหน้าที่ของตนเองเท่านั้น ประการที่สอง การให้ศาลฎีกาวินิจฉัยกรณีฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง การฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม แบ่งเป็นสองประเภท ได้แก่ ฝ่าฝืนแบบทั่วไป กับ ฝ่าฝืนที่มีลักษณะร้ายแรง โดยกรณีฝ่าฝืนแบบทั่วไป ก็ให้ดำเนินกันเองในองค์กรของตน แต่กรณีฝ่าฝืนอย่างร้ายแรง ให้ ป. มีอำนาจไต่สวน ถ้า ป.
Written by ทนายแมน on 4 March 2020. Posted in ประมวลกฎหมายอาญา. หาทนาย จ้างทนาย เกี่ยวกับ ในการลดโทษประหารชีวิต จะทำอย่างไร? มาตรา 52 ในการลดโทษประหารชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการลดมาตราส่วนโทษหรือลดโทษที่จะลง ให้ลดดังต่อไปนี้ (1) ถ้าจะลดหนึ่งในสามให้ลดเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิต (2) ถ้าจะลดกึ่งหนึ่ง ให้ลดเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือโทษจำคุกตั้งแต่ยี่สิบห้าปีถึงห้าสิบปี ป. อ. มาตรา 52