ชิน หนัก ๑ บาท ๒. จ้าวน้ำเงิน หนัก ๒ บาท ๓. เหล็กละลายตัว หนัก ๓ บาท ๔. ตะกั่วเถื่อน หนัก ๔ บาท ๕. ปรอท หนัก ๕ บาท ๖. สังกะสี หนัก ๖ บาท ๗. บริสุทธิ์ (ทองแดงเถื่อน) หนัก ๗ บาท ๘. เงิน หนัก ๘ บาท ๙. ทองคำ หนัก ๙ บาท โทร: 0971297060 ราคา: 0 บาท หมวดพระ: พระยอดนิยมทั่วไป-พระกริ่ง-ลอยองค์-รูปหล่อ
2466-2471 9. พระกริ่งรุ่นวันรัตสร้างในปีพ. 2472 10. พระกริ่งปีพ. 2478 เป็นพิมพ์ที่ดัดแปลงมาจากพระกริ่งปวเรศ วัดบวรวิหาร โดยต่างกันที่ไม่มีบัวคู่ข้างหลัง 11. 2479 เป็นกริ่งที่สร้างออกมามากถึง 464 องค์ 12. พระกริ่งหน้าอินเดียสร้างเมื่อปีพ. 2482 13. พระกริ่งประภามณฑลวัดดอน สร้างเมื่อปีพ. 2480 ที่วัดดอนยานนาวา 14. พระกริ่งหน้าไทย สร้างเมื่อปีพ. 2482 15. 2483 16. พระกริ่งวัดกลางสร้างเมื่อปีพ. 2483 ที่วัดกลางวรวิหาร 18. พระกริ่งรุ่นบรรจุสุพรรณบัฏ สร้างเมื่อปีพ. 2483 19. พระกริ่งวัดช้าง สร้างเมื่อปีพ. 2484 20. พระกริ่งพุทธนิมิตร สร้างเมื่อปีพ. 2484 21. 2485 เป็นพิมพ์เดียวกับปีพ. 2483 เพียงแต่สีเนื้อต่างกัน 22. พระกริ่งเชียงตุง สร้างขึ้นเมื่อปีพ. 2486 ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายสร้างเป็นจำนวน 108 องค์ และจากภาพที่นำมาลงนี้ เป็นพระกริ่งวัดสุทัศน์ ที่สร้างในสมเด็จพระสังฆราชแพ รุ่นพุฒาจารย์ ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ. ศ 2466 – 2471 โดยสร้างจากนวโลหะ (โลหะ 9 ประการ) มีกระแสเนื้อออกสีแดงกลับดำ หรือในบางองค์อาจเป็นเนื้อแดงกลับเงินและกลับดำก็มี และพระกริ่งรุ่นนี้จะมี พิมพ์ทรงที่เหมือนกันกับพระกริ่งรุ่นพรหมมุนีมาก คือทั้งสองรุ่นได้สร้างล้อพิมพ์มาจากพระกริ่ง จีนใหญ่เหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่พระกริ่งรุ่นพุฒาจารย์จะมีความคมชัดมากกว่า ซึ่งพระกริ่งรุ่นพุฒาจารย์นี้ได้หล่อขึ้นแบบมีกริ่งอยู่ในตัว โดยอาจมีรอยอุดที่สะโพกฐานทางด้านหลัง 1 หรือ 2 รอย กริ่งของสมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศน์ ลองศึกษาเปรียบเทียบกับพระกริ่งปวเรศ วัดบวรวิหาร โทร: 061-490-1584 สถานะ: โทรถาม
2422 อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดเศวตรฉัตร โดยมี สมเด็จพระวันรัต (แดง) เป็นพระอุปัชฌาย์ แล้วย้ายมาอยู่วัดสุทัศนฯ ทรงได้รับการแต่งตั้งสมณศักดิ์เรื่อยมา และในวันที่15 พฤศจิกายน พ. 2481 ได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 12 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สิ้นพระชนม์ในปี พ. 2487 สมัยรัชกาลที่ 8 สิริพระชนมายุ 89 พระพรรษา 66 สมเด็จพระสังฆราช (แพ) ขณะดำรงตำแหน่งพระเทพโมลี ในวโรกาสที่ได้รับแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะชั้นผู้ใหญ่ ที่ "พระเทพโมลี" เมื่อปี พ.