การตลาด (Marketing) การตลาดคืออะไร จำเป็นแค่ไหนที่จะใช้การตลาดในการประกอบธุรกิจคนสมัยก่อนไม่เห็นต้องใช้เลย ขอตอบเลยนะคะว่า ไม่ว่าแต่ก่อนหรือตอนนี้ผู้ประกอบการเล็กหรือใหญ่ต่างใช้การตลาดทั้งนั้นค่ะ เพียงแค่ไม่สังเกตหรือเปล่าว่าเรามีกิจกรรมอะไรบ้าง งั้นเรามาดูกันเลยค่ะว่าการตลาดของเรานั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง 4P หรือ Marketing Mix ชื่อเรียกภาษาไทยว่า ส่วนผสมทางการตลาด เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ใช้ในการวางแผนการตลาด ซึ่งประกอบไปด้วย 1. Product(ผลิตภัณฑ์) ผู้(ที่จะ)ประกอบการต้องรู้ความต้องการของตลาดและของตัวเองก่อนว่าต้องการขายสินค้าตัวไหน แบบไหน โอเคกับสินค้าที่จะผลิตออกมามั้ย มีความเชี่ยวชาญแค่ไหน ต้องทราบถึงข้อดีและข้อเสีย ส่วนผสม วิธีการใช้หรือทาน ช่วงอายุสินค้า ฯลฯ ของผลิตภัณฑ์ที่จะจำหน่าย แน่ล่ะว่ายิ่งรู้มากเท่าไหร่ยิ่งดี เมื่อเกิดคำถามจากผู้บริโภคเราจะสามารถตอบคำถาม และสามารถนำเสนอสินค้าได้ 2. Price(ราคา) เป็นตัวแปรสำคัญในการประกอบการที่หวังผลกำไร มีการตั้งเป้าหมายว่าต้องการกำไรที่กี่เปอร์เซ็น ทั้งนี้การตั้งราคาอาจขึ้นอยู่กับต้นทุนสินค้า ราคาตลาดพื้นที่ ราคาคู่แข่ง สำหรับสถานประกอบการที่คำนวนต้นทุนมาแล้วได้ราคาที่สูงกว่าคู่แข่งต้องดูว่าจะสู้ไหวมั้ย สินค้าดีกว่าเขาแค่ไหน เพื่อสร้างมาตรฐานของตัวเอง หรือบางที่อาจใช้กลยุทธในการลดต้นทุนต่างๆเพื่อให้ได้ราคาขายที่ถูกลง 3.
โทรเลย 0635357404 วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 09. 00 – 18. 00 น. สมัครสมาชิก
Place หรือสถานที่ ทำเล หรือช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการให้แก่ลูกค้า หลักๆ เลยก็คือต้องมีความถูกต้อง ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว โดยต้องพิจารณาตามลักษณะสินค้าหรือบริการ ซึ่งต้องคำนึงถึงวิธีการขายที่จะสามารถทำให้เกิดผลกำไรได้สูงสุด และต้องกระจายสินค้าไปสู่กลุ่มลูกค้าให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ได้มากที่สุด 4.
หนังสือหลักการสื่อสารทางการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
MK - Design: หลักการตลาด 4P
หลักการตลาด 4P หรือเรียกอีกอย่างว่า ส่วนผสมทางการตลาด (Marketing Mix) มีอยู่ด้วยกัน 4 ประการคือ 1. ผลิตภัณฑ์ (Product) ธุรกิจมีองค์ประกอบซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญประการแรก คือ ผลิตภัณฑ์สินค้า (Goods) หรือบริการ (Services) สำหรับสินค้านั้นจำแนกเป็น สินค้าที่จับต้องได้ และสินค้าที่จับต้องไม่ได้ สำหรับการบริการจำแนกเป็น บริการแบบมีส่วนร่วม และบริการแบบไม่มีส่วนร่วม ด้งนั้นสินค้าและบริการจึงเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ โดยจะต้องมีคุณลักษณะสำคัญ คือ คุณภาพ (Quality) สำหรับคุณภาพนั้นยังมีความหมายรวมถึงความเหมาะสมในการใช้งาน คุณภาพจากการออกแบบ และคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด นอกจากนั้นคุณภาพยังเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงภาพลักษณ์ของธุรกิจอีกด้วย 2.
ค. ก. พ. เงินสดต้นงวด 58, 800. 00 47, 800. 00 33, 300. 00 เงินสดจากการขายเสื้อ 60, 000. 00 70, 000. 00 80, 000. 00 เงินสดจากการขายเครื่องประดับ 40, 000. 00 เงินสดจากรายได้อื่นๆ 50, 000. 00 กระแสเงินสดรับ 228, 800. 00 217, 800. 00 193, 300. 00 ค่าวัตถุดิบ 30, 000. 00 ค่าวัสดุสิ้นเปลือง 4, 000. 00 5, 000. 00 ค่าขนส่ง-หีบห่อ 2, 000. 00 3, 000. 00 ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7, 500. 00 ค่าใช้จ่ายกรรมการ 20, 000. 00 ค่าแรงงาน เงินเดือนสำนักงาน ค่าเช่า 10, 000. 00 1 0, 000. 00 การตลาด ค่าน้ำมันและเดินทาง 5000. 00 ค่าไฟฟ้า, น้ำประปา 2, 500. 00 ค่าโทรศัพท์ ค่าบำรุงรักษา 1, 000. 00 คืนเงินกู้และดอกเบี้ยเงินกู้ ค่าประกันภัย ค่าธรรมเนียมต่างๆ ค่ารับรอง - อื่นๆ 8, 000. 00 กระแสเงินสดจ่าย 181, 000. 00 184, 500. 00 205, 000. 00 กระแสเงินสดสุทธิ 11, 700. 00 ได้เงินกู้มา เงินกู้จากเจ้าของ กระแสเงินสดรับสุทธิ 8, 300. 00 คืนเงินให้เจ้าของ เหลือเงินสดปลายงวด 8, 300. 00
การจัดทำงบกระแสเงินสดแบบง่าย เรามักถูกถามเวลาไปขอสินเชื่อที่ธนาคาร พนักงานสินเชื่อมักถามว่า cashflow ของกิจการเป็นอย่างไรบ้างมีเงินเหลือเท่าใดและก็จะให้เราทำ cashflow ส่งมาให้ดูก่อน เรามารู้จักกันว่างบกระแสเงินสดหรือ Cashflow statement เป็นอย่างไร งบกระแสเงินสดคืองบที่แสดงการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของกระแสเงินสด(สภาพคล่องของกิจการ) ของกิจการโดยบอกให้ทราบถึงแหล่งที่มา (Source) และการใช้ไป (Use) ของเงินสด กระแสเงินสดของกิจการมาจาก 3 กิจกรรมหลัก ดังนี้ 1. กระแสเงินสดจากกิจกรรมการดำเนินงาน (Cash flow from operation) 2. กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุน (Cash flow from investment) 3.