SLE เมื่อภูมิคุ้มกัน... เลิกคุ้มกันเรา แล้วหันกลับมาทำลายเรา หากมีคำถามว่า รู้จักโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง (Autoimmune Disease) หรือไม่บางคนอาจต้องทวนคำถามว่าโรคอะไรนะ?
ค.
ไม่สามารถมีกำลังกลับมาเท่าเดิมหลังให้ steroid นาน 4 เดือน 2. ยังมีการเพิ่มขึ้นของ muscle enzyme นาน 3 เดือน 3. มีการเพิ่มขึ้นของ plasma von-Willebrand factor antigen การรักษา ยาที่ใช้ prednisolone, MTX, azathiopine, cyclophosphamide, cyclosporine, chlorambusil, chloroquine, IVIg และการทำ plasmapheresis เป็นต้น
ลดการสร้างภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ การใช้ปฏิกิริยาออกซิเดชั่นในเลือดด้วยโอโซนเพื่อการรักษา (H. O. T. ) ยับยั้งโรคที่กำลังรุนแรง จำนวนครั้งพิจารณาตามความเหมาะสมจนกว่าโรคจะสงบและดูแลรักษาต่อเนื่องอย่างน้อยเดือนละครั้ง เนื่องจากเราแก้ genetic predisposition ไม่ได้จึงต้องเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมในร่างกายแบบต่อเนื่อง ประเทศคิวบาพบว่า H. ลดปริมาณภูมิต้านทานที่ก่อโรคได้ (ลด pathogenic immunoglobulin) โดยไม่กดภูมิต้านทาน และไม่มีผลข้างเคียงแบบการใช้ pulsed steroid therapy 2. กำจัดเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของการสร้างโมเลกุลเหมือนร่างกาย โดยใช้เลเซอร์ภายใน intravenous endolaser แบบหลายช่วงคลื่น เช่น ช่วงคลื่น UV ฆ่าเชื้อ แบบปรับความแรงต่ำไม่ส่งผลต่อดีเอนเอ ช่วงคลื่นลดการอักเสบและช่วงคลื่นเพิ่มการสร้างพลังงานในเซลล์ ทำให้เม็ดเลือดขาวแข็งแรงขึ้น พร้อมกับลดปฏิกิริยาอักเสบในร่างกาย ช่วงอาการหนักควรทำทุกวัน เมื่ออาการดีขึ้นสามารถลดความถี่ เมื่อหายควรทำอีกเดือนละครั้งเพื่อไม่ให้โรคสะสมจนกลับมาเป็นอีก 3. ทำลายภูมิต้านทานที่ผิดปกติ ด้วยระบบภูมิต้านทานวิธีวัคซีน Immunostop สกัดแยกภูมิที่ผิดปกติ แล้วปรับให้เป็นวัคซีน เมื่อได้รับวัคซีนภูมิผิดปกติ ร่างกายจะสร้างภูมิมาทำลายภูมิที่ผิดปกติทิ้งไป 4.
ศ. 1753 แต่ยังไม่มีการตั้งชื่อโรค จนกระทั่งในปี ค.
(30 min) for 10 - 14 days PUVA ยาที่รักษาอาการทางระบบอาหาร proton pump inhibitor Omeprazol 20 - 40 mg/d H2-receptor blocker Ranitidin 150 - 300 mg/d gastroprocinetics Metoclopramid 3 x 10 mg/d p. o. หรือ hydralazine 25 mg วันละ 3 ครั้ง spirin 300 mg วันละ 2 ครั้ง
แก้ไขปัญหาผนังลำไส้อ่อนแอชนิด leaky gut ผู้ป่วยโรคภูมิต้านทานผิดปกติเกือบทั้งหมด มีปัญหาผนังลำไส้อ่อนแอเสียสมดุลจุลินทรีย์เป็นเวลานาน การแก้ไขปัญหาผนังลำไส้จะใช้หลัก 4R's gut healing ของ functional medicine ได้แก่ 1/R=Remove, 2/R=Replace, 3/R=Repair, 4/R=Reinoculate เพื่อแก้ไขปัญหาแบบยั่งยืนไม่กลับมาอีก 5. การใช้เซลล์ต้นกำเนิด โดยใช้เซลล์ Mesenchymal stromal cell เพื่อหยุดการทำลายเซลล์ตัวเอง ให้โรคสงบอย่างรวดเร็ว 6. การปรับเปลี่ยนอาหาร ส่วนสำคัญควบคุมโรค และระหว่างรักษาข้อ. 4 ควรตรวจภาวะแพ้อาหารแฝง ผู้ที่เป็นโรคนี้ทุกคนควรหลีกเลี่ยง นม ผลิตภัณฑ์นม ขนมปัง เบเกอรี่ ถั่วทุกชนิด ไข่ และส้ม เน้นรับประทานผักผลไม้หลากสี ผลไม้ตระกูลเบอรี่ น้ำมันชนิดดี เช่น น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น น้ำมันงาม่อนสกัดเย็น น้ำมันมะกอก เป็นต้น 7. คีเลชั่น สารโลหะหนักเป็นตัวกระตุ้นโรคภูมิต้านทานทำลายตนเองที่รุนแรง จึงต้องค่อยๆทำคีเลชั่นไม่ว่าจะเป็นแบบรับประทาน แบบเหน็บ หรือการใช้ alpha lipoic acid ทางเส้นเลือดจึงเป็นทางเลือกที่ช่วยได้ในช่วงที่มีการอักเสบรุนแรง 8. การใช้โภชนเภสัช การใช้วิตามินและสารอาหารแบบเฉพาะบุคคลที่มีฤทธิ์ลดการอักเสบโดยใช้ในสัดส่วนที่แตกต่างกันออกไปเฉพาะสำหรับแต่ละบุคคล 9.